Personal loan and credit card debts club in Thailand ชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล

avatar
เมื่อวานนี้พูดเรื่องของหนี้บัตรเครดิต กับดักชีวิตของคนวัยทำงานที่คิดว่าการมีบัตรเครดิตเป็นเรื่องที่โก้เก๋ จนเกิดอาการใช้เงินอย่างเกินตัวและทำให้ต้องเป็นหนี้แบบหมุนเวียนเดือนชนเดือนจนไม่รู้จักจบสิ้น การได้มาซึ่งบัตรเครดิตไม่ใช่ว่าคุณไม่ได้มีรายได้แต่อย่างใด แต่พอมีบัตรเครดิตใช้แล้วทำให้คุณเกิดอาการลืมตัว เพราะวงเงินสินเชื่อในบัตรเครดิตเป็นเงินอนาคตใช้จ่ายไปเท่าไหร่ก็ต้องใช้หนี้คืนพร้อมดอกเบี้ยจากจำนวนเงินคุณที่ใช้ไป

Source: Siam Commercial Bank Public Company Limited

ใช้วงเงินในบัตรเครดิตจับจ่ายซื้อของในชีวิตประจำวัน ไม่มีเงินจ่ายคืนดอกเบี้ยถึงจะหนัก แต่ก็ไม่หนักเท่าการที่คุณกดเงินสดออกมาจากบัตรเครดิต ค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดก็แสนจะโหด ยังไม่พอ ดอกเบี้ยกดเงินสดจากบัตรเครดิตยิ่งโหดเพราะคิดเป็นรายวัน ทบเข้าไปต่อเดือนและยิ่งคุณมีการจ่ายหนี้บัตรเครดิตด้วยการชำระเพียงขั้นต่ำแล้วละก็เป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว เพราะดอกเบี้ยจะทับทมไปเรื่อย มีหนี้บัตรเครดิตเพียงแค่ใบเดียวก็ยังมีเงินไม่พอจะชำระหนี้ และส่วนใหญ่คนที่มีบัตรเครดิตจะมีบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบแทบจะทั้งนั้น

ส่วนวิธีการจะปลดหนี้บัตรเครดิตนั้น ไม่มีใครช่วยคุณได้นอกจากคุณต้องเริ่มต้นด้วยตัวของคุณเอง รู้จักที่จะยอมรับความจริงว่าคุณเป็นหนี้ไม่สามารถที่จะผ่อนชำระได้ และหยุดสร้างหนี้ใหม่ ประเมินหนี้สินที่คุณมีและภาระการผ่อนชำระในแต่ละเดือนเพื่อจัดลำดับความสำคัญในการชำระหนี้ และถ้าคุณยังพอชำระหนี้ได้อย่าจ่ายยอดหนี้ที่เรียกเก็บแค่ขั้นต่ำ พยายามปิดหนี้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยที่สูงที่สุดให้หมดโดยเร็ว หรือถ้ายังพอมีเครดิตอยู่บ้างให้ทำเรื่องขอรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

ส่วนคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต จนไม่มีความสามารถในการชำระหนี้คืน ถ้าจ่ายหนี้เพียงแค่ขั้นต่ำก็จะไม่มีเหลือเงินที่จะยังชีพในแต่ละเดือนแล้ว และถูกทวงถามหนี้จากสำนักงานกฎหมายต่างๆ สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือตั้งสติ ตั้งรับเพื่อเจรจากับเจ้าหนี้ ส่วนวิธีของเราตอนเป็นหนี้บัตรเครดิตคือ หยุดจ่ายหนี้ทุกธนาคาร เพื่อให้มีเงินใช้ในชีวิตประจำวัน หากมีการทวงถามหนี้ก็ต้องทำใจ ถ้ามีการโทรมาให้ปรับโครงสร้างหนี้คืออย่าทำ เพราะถึงทำการปรับโครงสร้างหนี้เราก็ไม่มีกำลังในการจ่ายหนี้คืนเหมือนเดิม ส่วนที่พวกที่โทรมาขู่ว่าติด Blacklist เครดิตบูโรอย่าได้กลัว เพราะว่าประวัติจะอยู่แค่ 3 ปีเท่านั้น ไม่สามารถมายึดเงินเดือนหรือทรัพย์สินที่ใช้ในการยังชีพต่างๆ ได้ และจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อขบวนการถึงขั้นศาลที่มีการตัดสินให้ขำระหนี้ จะยึดได้ก็ต่อเมื่อมีคำสั่งศาลเมื่อเราไม่ได้ชำระตามที่ตกลงในขั้นศาล และจะมีหลักเกณฑ์ต่างๆ เพราะฉะนั้นตั้งสติให้ดีอย่าได้กลัวเมื่อมีการทวงถามหนี้ ถ้าเรื่องถึงขั้นส่งฟ้องศาลก็อย่าได้ตกใจเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่คุณได้ประโยชน์คือเมื่อเรื่องถึงขั้นศาลก็คือ ดอกเบี้ยจะไม่มีการนำมาคิด และเมื่อหยุดไม่ชำระหนี้แล้ว ให้ตั้งใจเก็บเงินนำเงินที่ต้องชำระหนี้เก็บออมเอาไว้ เพื่อชำระหนี้ในขั้นศาล

ในช่วงที่ถูกทวงถาม คุณอาจจะจิตตก ข้อแนะนำให้หาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของคุณ ซึ่งมีชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล เข้าไปศึกษาข้อมูลได้ตามลิงค์นี้ ชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ซึ่งจะมีข้อมูลและแนวทางต่างๆในการแก้ไขปัญหา และมีกลุ่มคนที่ตกอยู่ในสภาพที่เป็นหนี้และสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้วมาแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาหนี้

ท้ายที่สุดแล้วที่เป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ก็ต้องชำระหนี้ ส่วนเรื่องกลัวว่าจะไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้ต้องยอมรับความจริงว่า คุณจะมีประวัติในฐานข้อมูลอยู่ประมาณ 3 ปี เมื่อมีการชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว 3 ปีไปประวัติหนี้ที่เคยมจะถูกลบกลับไปอยู่ในสถานะปกติ แต่ประวัติการเป็นหนี้ต่างๆ ยังคงมีอยู่ ส่วนใครกลัวที่จะกู้ซื้อบ้านหรือทำธุรกรรมการเงินต่างไม่ได้ไม่จริง จากประสบการณ์ของตัวเอง หยุดจ่ายหนี้เพื่อหยุดดอกเบี้ย เรื่องถึงขั้นศาล ศาลต่างเข้าใจดีถ้าคุณชี้แจงได้และมีเหตุผลในการที่ไม่สามารถชำระหนี้ รอบแรกเราไม่รับข้อเสนอที่ทางธนาคารแจ้งในขั้นศาล เราไม่ยอมตกลงและมีการนัดพิจารณากันใหม่ ไม่ถึง 10 วันทางธนาคารทำข้อเสนอโทรมาแจ้งยอดที่ต้องปิดครั้งแรก 65000 บาท จากยอดที่ร้องให้ชำระในขั้นศาลจำนวน 85000 บาท จากวงเงินสินเชื่อที่ใช้เต็มจำนวน 150000 บาท แต่ต่อรองไม่ต้องไปศาลรอบ 2 โดยจ่ายหนี้จำนวน 25000 เท่านั้นชำระในครั้งเดียว เราคิดว่าที่เราสามารถลดยอดที่ต้องจ่ายได้เยอะเพราะว่าเราสามารถชี้แจงต่อศาลได้ว่าก่อนที่จะหยุดชำระหนี้ ไม่จ่ายหนี้เรามีการพยายามชำระหนี้มาโดยตลอดไม่ได้มีงานประจำทำหรือมีรายได้ใดๆ โดยยกหลักฐานการชำระหนี้จากเอกสารของธนาคารประกอบเรื่องที่ส่งฟ้อง เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่แต่ละกรณีของแต่ละบุคคล แต่เมื่อถึงขั้นศาลเราอาจจะจิตตกรู้สึกอาย แต่บอกได้เลยว่าดอกเบี้ยหายไปเยอะมาก ถามว่าธนาคารได้กำไรเหรอแค่นี้ ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ธนาคารกินดอกเบี้ยจากเราอยู่ตลอดทุกเดือน และยิ่งปล่อยไว้นานธนาคารต้องเสียเงินค่าทนายและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก

เมื่อส่งหนี้คืนครบก็ไม่ต้องรอถึง 3 ปี ประมาณ 6-7 เดือนเราก็สามารถขอกู้เงินสินเชื่อจากธนาคารได้แล้ว โดยไปขอกู้สินเชื่อประกอบอาชีพจากธนาคารออมสิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประวัติทางการเงินในปัจจุบันเสียมากมากกว่าว่ามีรายได้รายรับในปัจจุบันพอที่จะชำระหนี้ก้อนใหม่ได้หรือไม่ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับตั้งสติและอย่าตกใจตกเกินเหตุ หยุดสร้างหนี้ใหม่ เอาเงินที่จะส่งหนี้มาออม



0
0
0.000
4 comments
avatar

Warning! This user is on our black list, likely as a known plagiarist, spammer or ID thief. Please be cautious with this post!
If you believe this is an error, please chat with us in the #appeals channel in our discord.

0
0
0.000
avatar

Credit card debt is a type of unsecured liability that is incurred through revolving credit card loans. Borrowers can accumulate credit card debt by opening numerous credit card accounts with varying terms and credit limits. All of a borrower’s credit card accounts will be reported and tracked by credit bureaus. The majority of outstanding debt on a borrower’s credit report is typically credit card debt, since these accounts are revolving and remain open indefinitely.

Source: Investopedia


0
0
0.000
avatar

Congratulations @andyjim! You have completed the following achievement on the Hive blockchain and have been rewarded with new badge(s) :

You have been a buzzy bee and published a post every day of the week

You can view your badges on your board and compare yourself to others in the Ranking
If you no longer want to receive notifications, reply to this comment with the word STOP

To support your work, I also upvoted your post!

0
0
0.000