ลัดเลาะรอบบ้าน

avatar

img_20211012_132110.jpg

สวัสดีคร้าาาาาา.... มาแย้ววววว.... วันนี้ลัดเลาะรอบบ้าน วันนี้ย้ายต้นไม้อีกแว้วววววว.... หยุดไม่ได้จริงๆ ไอ้เรื่องย้ายเนี่ยชอบนักแล วันนี้ก็ย้ายต้นข่า ซึ่งปลูกไว้ริมรั้ว ตอนแรกก็สองจิตสองใจจะย้ายดีไหม๊ เพราะว่าข่ามันขุดยาก แต่ก็แบบลองดูก็ได้ ถ้าขุดไม่ขึ้นก็ไม่ย้าย สรุปว่าขึ้นขึ้นเพราะบัวเพิ่งขุดและปลูกใหม่ไม่นาน เลยทำให้รากของข่ายังไม่ถึงกับหยั่งรากลงลึก พอดีก่อนหน้านี้แบ่งให้น้องที่รู้จักกัน น้องเห็นต้นข่าที่บ้านบัวสวย บัวไม่ได้ปลูกไว้ทำกับต้มยำอะไรนำ ปลูกไว้ประดับรั้วบ้าน เพราะต้นมันสูงใหญ่ดี ใช้เป็นม่านบังสายตาได้ด้วย พอขุดหัวข่าขึ้นมาได้หมดแล้ว บัวก็ย้ายไปปลูกกับต้นดาหลา ที่น้องสาวส่งมาให้จากจังหวัดตาก ซึ่งตอนนี้ต้นดาหลาสูงท่วมหัวแล้ว แต่ยังไม่สูงเท่าต้นข่า

img_20211012_162926.jpg

บริเวณนี้แรกเริ่มเดิมทีปลูกต้นเข็ม ปลูกได้อาทิตย์เดียว หลังจากที่ได้รับหน่อดาหลาย้ายจร้าาาาาา..... เอาหน่อดาหลามาปลูก ระหว่างนั้นก็ต้นดอกแววมยุราขึ้นเต็มรอบๆ สวน บัวก็ขุดเอามาปลูกระหว่างรอให้หน่อดาหลางอก ตอนนี้หน่อดาหลางอกแล้ว บัวก็รื้อต้นแววมยุราทิ้ง เพราะว่ามันเริ่มแก่ และไม่สวย แล้วก็ย้ายต้นข่ามาปลูกต่อจากต้นดาหลา เพราะพื้นที่มันยังว่าง แต่พอดีก่อนที่บัวจะถ่ายรูป มีทั้งลมทั้งฝน ทำให้ต้นข่าที่เพิ่งย้ายมันเอนเข้าหาตัวบ้าน ก็ต้องรอให้รากมันยึดก่อน มันคงจะตั้งสวย

img_20211012_132304.jpg

ตอนเช้าๆ ย้ายโน่นนี่นั่นเสร็จ ก็เดินดูรอบๆ บ้านว่ามีอะไรอยากจะย้ายอีกไหม๊ 555 ตอนนี้พริกชีฟ้าหลังบ้านกำลังดกเลยค่ะ เป็นพริกที่บัวซื้อส้มตำมากิน แล้วบัวก็เทเศษพริกไว้ที่กองดินหลังบ้าน ไม่นานพริกชี้ฟ้าก็เกิด เมื่อก่อนนี้มีทั้งมะเขือเทศ มะเขือเปราะ แต่ว่ามันมีเพลี้ยมาเกาะเยอะ บัวก็เลยถอนทิ้ง เหลือแต่พริกชี้ฟ้าต้นเดียว

img_20211012_131906.jpg

พริกต้นนี้โตเร็วมาก ทั้งๆ ที่บัวไม่ได้ใส่ปุ๋ย หรือดูแลอะไรเลย ดินที่ปลูกก็เป็นดินที่บัวขุดขึ้นมา เวลาที่จะปลูกต้นไม้ ถือว่าเป็นดินที่ไม่ดี ไม่มีสารอาหารเลยก็ว่าได้ เป็นดินเหนียวผสมดินทราย แต่พริกงามมาก ดกอีกต่างหาก เสียดายบัวไม่ใช่สายทำอาหาร

img_20211012_131847.jpg

อะไรเอ่ย? ต้นเท่าครก ใบปรกดิน เคยเล่นทายอะไรเอ่ยกันไหมคะตอนเด็กๆ บัวนี่ชอบมากเลยนะ ซื้อหนังสืออะไรเอ่ยมาทายเล่นกับเพื่อน เฉลยนั่นก็คือตะไคร้ ซึ่งบัวก็ย้ายจากรั้วข้างบ้าน ซึ่งเคยปลูกไว้ใกล้ๆ ต้นข่านั่นแหล่ะค่ะ แต่ระยะหลังมันขึ้นโคน เหมือนจะตายมิตายแหล่ แล้วใบมันก็รก เวลาที่เดินผ่านใบมันบาดขาด้วย อาบน้ำทีนี่แสบเลย บัวก็เลยย้ายมาปลูกข้างๆ กับต้นพริกนั่นแหล่ะค่ะ กะว่าตายก็ตาย รอดก็เก็บไว้ สรุปว่านางรอด แถมยังงามกว่าตอนที่เลี้ยงดูอย่างดีซะอีก

img_20211012_122119.jpg

หลังจากเดินดูโน่นดูนี่แล้ว ประมาณเที่ยงบัวก็ล้างกลอยซึ่งสั่งซื้อจากเพจ และหั่นฟักทอง นึ่งค่ะ ใช้เวลา 50 นาที แล้วก็ขึ้นไปอาบน้ำ

img_20211012_131744.jpg

หลังจากนั้นกลอยก็สุก กลอยบัวไม่ได้กินมานานม๊วกกกกกก.... ตอนเด็กๆ แม่จะพาไปหาในป่า กลอยหัวจะอยู่ใต้ดิน เมื่อเห็นเครือกลอยที่แก่และใบเริ่มแห้ง แม่ก็จะใช้เสียมขุดหัวกลอยขึ้นมา เมื่อได้เยอะพอแล้ว ก็กลับบ้าน ทำการล้างหัวกลอย แล้วก็ปลอกเปลือก และหั่นกลอยเป็นชิ้นบางๆ จากนั้นก็แช่น้ำไว้ แช่ไว้หลายวันเลยค่ะ เพื่อที่จะให้ความคันที่อยู่ในหัวกลอยหมดไป แม่จะเป็นคนดูว่าใช้ได้หรือยัง จากนั้นก็ล้างให้สะอาด เอาไปตากแห้ง แล้วก็เก็บใส่ถุง เวลาจะกินก็เอากลอยไปแช่น้ำให้นิ่ม แล้วก็เอามานึ่ง

img_20211012_133000.jpg

ปกติที่บ้านเวลานึ่งกลอยก็จะนึ่งใส่กับฟักทอง หรือนึ่งเปล่าๆ ถ้าไม่มีฟักทอง เมื่อนึ่งสุกแล้วก็จะโรยด้วยน้ำตาล และมะพร้าวขูด แต่วันนี้บัวไม่มีมะพร้าวขูด ก็เลยโรยแค่น้ำตาล ตอนกินทำให้นึกถึงสมัยตอนเป็นเด็ก รู้สึกว่ากลอยที่แม่ทำมันเหนียวนุ่มกว่านี้เยอะเลย หรืออาจจะเป็นเพราะตอนเป็นเด็กกินอะไรก็อร่อย 555

img_20211012_153451.jpg

ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ บัวก็นั่งประจำที่ นั่งก็คือหน้าคอม หาภาพบ้าง ฟังข่าวบ้าง จนประมาณบ่าย 3 โมง บัวลุกจากเก้าอี้ จังหวะที่เลื่อนเก้าอี้ เห็นรอยเลือดที่พื้น ก็เอ๊ะ!!!!.... เลือดอะไรฟ่ะ หรือเลือดเมนส์ เพราะบัวเป็นเมนส์อยู่พอดี แต่ก็ใส่ผ้าอนามัยอยู่นะ แล้วเลือดมันจะไปอยู่ที่พื้นได้ไง บัวก็เลยเลื่อนเก้าอี้ออกมาอีก ก็ถึงบางอ้อ เจ้าทากดูดเลือดวายร้ายนี่เอง

img_20211012_153447.jpg

แล้วบัวก็หาว่าแล้วมันกินเลือดบัวตั้งแต่ตอนไหน แล้วกินตรงไหนของร่างกาย บัวยังเดินเอาไปให้คุณสาดู นางก็เลยชี้ที่เท้า เอ้า!!!.... กินเลือดบริเวณง่ามเท้าระหว่างนิ้วนางกับนิ้วก้อย กินแบบไม่รู้ตัวเลย คงกินมาหลายชั่วโมงแล้ว บัวคิดว่าคงเกาะบัวมาตั้งแต่เช้า ตั้งแต่ที่บัวย้ายต้นไม้ หรือตอนที่บัวไปถ่ายรูปพริก เพราะบริเวณต้นพริกหญ้ามันสูงพอสมควร ตอนอาบน้ำก็ไม่เห็นนะ ปกติถ้ามันยังไม่เริ่มดูดเลือดตัวมันเล็กมากๆ

img_20211012_153551.jpg

ทากดูดเลือดมีลักษณะคล้ายปลิง มีชีวิตอยู่ด้วยการดูดเลือดเป็นอาหาร พอดีหลังบ้านบัวเป็นคลองน้ำ มันก็จะมีความชื้นความแฉะอยู่พอสมควร แล้วทากดูดเลือดก็จะเยอะมากในสวน บางทีบัวออกไปปลูกต้นไม้มันก็จะเกาะตามขา ครั้งแรกที่บัวโดนทากดูดเลือด ตอนนั้นดึงมันออกอยากมากๆ เพราะปากมันเป็นคล้ายๆ ตะขอ พอดึงออกแล้วเลือดก็ไหลไม่หยุด ใช้เวลาเกือบครึ่งวันเลือดถึงยอมหยุด

img_20211012_153515.jpg

ทากมันจะรับรู้แรงสั่นสะเทือนจากการเดินของบัว แล้วมันจะคอยชูคอรอให้บัวเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วก็ค่อยๆ กระดึบ กระดึบ ขึ้นไปบนตัวบัวอย่างแผ่วเบา และนุ่มนวล โดยที่บัวไม่รู้สึกตัวเลย แล้วมันก็จะเลือกหาตำแหน่งที่เหมาะ เพื่อจะดูดเลือด ระหว่างที่มันดูดเลือดนั้น มันจะปล่อยสารที่มีลักษณะคล้ายยาชา ทำให้บัวไม่รู้สึกอะไรเลย หลังจากนั้นมันก็จะดูดเลือดทันที ระหว่างที่ดูดเลือดมันจะปล่อยสาร ที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว และสารที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว มันจะได้ดูดเลือดแบบสะดวกโยธิน เพราะแบบนี้เมื่อก่อนตอนที่โดนครั้งแรก บัวดึงตัวทากออกแล้วเลือดถึงไหลไม่หยุด

img_20211012_153606.jpg

ตอนนั้นบัวโดนก็เลยเล่าให้น้องที่รู้จักฟัง นางบอกว่าพ่อของนางก็ทำสวน แล้วก็มีทากเยอะมาก พ่อของนางใช้น้ำส้มสายชูราดเวลาที่โดนทากดูดเลือด ห้ามดึงทากออก ให้ใช้น้ำส้มสายชูยี่ห้อไหนก็ได้ราดไปเลย มันจะค่อยๆ คลายตะขอและปล่อย จากนั้นก็จะร่วงทันที และค่อยๆ หมดลมหายใจไป

img_20211012_153637.jpg

ตอนแรกที่บัวไม่รู้ บัวฆ่ามันยังไงก็ไม่ตาย บัวเอามันใส่ไมโครเวป เวปให้มันตาย ตอนนี้เจอน้ำส้มสายชูเข้าไป นิ่งเลย โชคดีที่บัวมีน้ำส้มสายชูติดครัวไว้ตลอด ไม่ใช่ซื้อมาไว้ทำกับข้าวนะคะ ซื้อมาไว้ล้างผลไม้ค่ะ ผลไม้มันมีสารเคมีเยอะ น้ำส้มสายชูช่วยได้



0
0
0.000
2 comments
avatar

พริกคือดกมากกก 😱

0
0
0.000
avatar

ปลูกทิ้งปลูกขว้างดันดก แต่พอตั้งใจปลูก บำรุงอย่างดีมีแต่ใบ 555

0
0
0.000